เมาส์ปากกา วาดรูป NFT Digital Painting
งานจิตรกรรมที่สร้างขึ้นด้วย ระบบดิจิทัล เช่น การสร้างภาพในคอมพิวเตอร์ แท็ปเลต สมาร์ทโฟน เมาส์ปากกา วาดรูป หรือดิจิทัลอื่น ๆ ที่พัฒนาไปสู่งานศิลปะร่วมสมัยที่แพร่หลายในปัจจุบัน ตั้งแต่ ดิจิทัลอาร์ต ภาพวาดดิจิทัล (Digital Painting)...
ผลงานศิลปะประเภท จิตรกรรม ประติมากรรม และผลงานทัศนศิลป์อื่นๆ ที่ผลิตโดยศิลปินที่มีชื่อเสียง สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ในราคาที่สูง เนื่องจากมีชิ้นเดียวในโลก (Original) ทำซ้ำหรือปลอมแปลงได้ยาก หรือต่อให้ทำซ้ำ คุณภาพก็ไม่เหมือนต้นฉบับ ยกตัวอย่างเช่น ภาพวาด Mona Lisa โดยศิลปิน Leonardo Da Vinci มีมูลค่า 782 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 27,000 ล้านบาท ผลงานศิลปะหลายชิ้นมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากนักสะสมซื้อผลงานไปเก็งกำไร เพื่อขายต่อในราคาสูงกว่า ในวันที่ศิลปินมีชื่อเสียงมากขึ้น
NFT Art ศิลปะคริปโต อนาคตของศิลปิน Digital Art
เมื่อไม่นานมานี้เราคงได้ยินข่าวการขายผลงานศิลปะในรูปแบบ NFT Art ที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับศิลปิน โดยผลงานบางชิ้นสามารถเปลี่ยนชีวิตศิลปินได้เลยทีเดียว แต่อาจมีหลายคนยังสงสัยอยู่ว่า NFT Art คืออะไร? และทำไมถึงมีมูลค่าสูงขนาดนั้น?
NFT คืออะไร? เทคโนโลยี Blockchain มาเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
- Non-Fungible แปลว่า ไม่สามารถทดแทนกันได้
- Token คือ เหรียญแทนเงินในสกุล Cryptocurrency
Non-Fungible Token จึงหมายถึง กรรมสิทธิ์ในการครอบครอง สินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีอยู่ชิ้นเดียวในโลก ไม่สามารถหาสิ่งอื่นมาทดแทนได้ สามารถตรวจสอบที่มา รวมถึงรับรองความถูกต้อง เพื่อการันตีว่าเป็นผลงานจริง โดย เทคโนโลยีบล็อกเชน (โทเคนดิจิทัล)
NFT เกิดขึ้นจากเทคโนโลยี Blockchain
ในอดีต เมื่อเราส่งไฟล์ดิจิทัลไปยังอุปกรณ์อื่น หรือบัญชีอื่น เช่น ส่งภาพถ่ายให้เพื่อน ถือเป็นการทำซ้ำหรือ copy ไฟล์เท่านั้น โดยมีไฟล์ต้นฉบับยังอยู่ในเครื่องเดิม และมีไฟล์ copy ใหม่ เกิดขึ้นมาในอุปกรณ์อีกเครื่อง ด้วยเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาเปลี่ยนแปลง การถ่ายโอนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบดั้งเดิม เมื่อเกิดการแลกเปลี่ยน ระบบบันทึกข้อมูลผู้ถือครองสินทรัพย์ เป็นทอดๆ เหมือนบันทึกการถือครอง กรรมสิทธิ์ที่ดินในโฉนดที่ดิน ซึ่งข้อมูลนี้เปิดเผยต่อสาธารณะ และไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้การถ่ายโอนข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ไม่ใช่เป็นการทำซ้ำหรือ copy อีกต่อไป แต่เป็นการส่งต่อไฟล์อย่างแท้จริง สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการซื้อขาย ไฟล์ผลงานดิจิทัลอาร์ตได้อีกด้วย หรือที่เราเรียกว่า "NFT Art"
ทำไม NFT Art จึงสามารถขายได้ในราคาสูง?
เหตุผลหลัก ๆ ที่ส่งเสริมให้เหล่าบรรดาศิลปิน ผู้ที่มีชื่อเสียง และคนทั่วไปหันมาเป็นผู้สร้างหรือสะสม NFT Art กันอย่างแพร่หลาย เกิดจากการที่ ศิลปินสามารถสร้างรายได้จากการขายผลงานศิลปะดิจิทัล วาดภาพดิจิทัล ฯลฯ ได้โดยตรง ผ่าน NFT marketplace นอกจากนี้ smart contract ที่ฝังไว้ใน NFT Art ก็ช่วยให้ศิลปินได้รับส่วนแบ่งจากการขายในทุกครั้ง ที่ผลงานอันล้ำค่าของพวกเขาถูกขายต่อไปเรื่อย ๆ เรียกได้ว่า เป็นการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ผู้เป็นเจ้าของ NFT อาจได้รับส่วนแบ่งรายได้ (Loyalty Fee) หรือไม่นั้น ล้วนขึ้นอยู่กับการตั้งค่าในขั้นตอนการสร้าง NFT ขึ้นมานั่นเอง นอกจากนี้ NFT Art ยังสามารถผลิตมาได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ภาพวาดดิจิทัล รูปภาพ เพลง หรือวิดีโอ โดยผู้ที่สนใจสามารถสะสมคอลเลกชันศิลปะดิจิทัลเหล่านี้ ได้จากการชำระราคาด้วยเงินทั่วไป (Fiat) หรือสกุลเงินดิจิทัลที่แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT Art แต่ละแห่งได้ระบุไว้
ภาพวาดดิจิทัล (Digital Painting)
ศิลปะดิจิทัลมีหลายรูปแบบ เป็นงานจิตรกรรมที่สร้างขึ้นด้วย ระบบดิจิทัลที่หลากหลาย เช่น การสร้างภาพในคอมพิวเตอร์ แท็ปเลต สมาร์ทโฟน หรือเครื่องมือดิจิทัลอื่น ๆ ที่พัฒนาไปสู่งานศิลปะร่วมสมัยที่แพร่หลายในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ภาพวาดดิจิทัล (Digital Painting) ที่ใช้โปรแกรมเช่น Adobe Photoshop หรือ Corel Painter ในการสร้างภาพ ซึ่งให้ความรู้สึกและเทคนิคที่คล้ายคลึงกับการวาดภาพแบบดั้งเดิม ไปจนถึงภาพสามมิติ (3D Art) ที่ใช้ซอฟต์แวร์อย่าง Blender หรือ Autodesk Maya ในการสร้างสรรค์โมเดลและฉากที่มีความลึก และรายละเอียดสูง นอกจากนี้ยังมีศิลปะเคลื่อนไหว (Animation) ซึ่งสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวที่มีชีวิตชีวา และใช้ในภาพยนตร์หรือเกม การกำเนิดของศิลปะดิจิทัล สามารถย้อนกลับไปได้ถึงช่วงทศวรรษที่ 1960 เมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์ ในการสร้างภาพกราฟิกเชิงทดลอง แต่ในยุคปัจจุบัน ศิลปะดิจิทัลได้กลายเป็นส่วนสำคัญของ วัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ นับตั้งแต่การออกแบบกราฟิก การพัฒนาเกม การสร้างภาพยนตร์ ไปจนถึงสื่อโฆษณาต่างๆ
ดิจิทัลอาร์ท (Digital Art)
ศิลปะดิจิทัลมีความยืดหยุ่นและความสะดวกสบาย ในการสร้างและแก้ไขผลงาน ศิลปินสามารถทดลองใช้สี รูปทรง และเทคนิคต่างๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการสิ้นเปลืองวัสดุ นอกจากนี้ ยังสามารถเผยแพร่ผลงานได้อย่างง่ายดายผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้ผลงานศิลปะสามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทั่วโลก ศิลปะดิจิทัลยังเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับศิลปินผ่านแพลตฟอร์ม NFT (Non-Fungible Token) ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ในการซื้อขายและยืนยันความเป็นเจ้าของผลงานดิจิทัล ทำให้ศิลปินสามารถขายผลงาน และได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมมากขึ้น นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ ผู้ชมสามารถเป็นเจ้าของงานศิลปะดิจิทัลได้อย่างแท้จริง ศิลปะดิจิทัลก็ยังคงเติบโตและพัฒนาต่อไป ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงโลกในทุกด้าน วิวัฒนาการของดิจิทัลอาร์ตจากอดีตถึงปัจจุบัน เป็นการสะท้อนถึงความสามารถของมนุษย์ ในการใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ และแสดงออกทางศิลปะอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เทคโนโลยีกับการเติบโตของศิลปะดิจิทัล
การพัฒนาของเทคโนโลยี เช่น ซอฟต์แวร์กราฟิก การประมวลผลภาพ 3D และแพลตฟอร์ม NFT ได้ทำให้งานศิลปะดิจิทัล เติบโตอย่างก้าวกระโดด ศิลปินสามารถนำเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์งานที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมทั้งเพิ่มมูลค่าให้กับผลงาน ผ่านตลาดออนไลน์ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ศิลปะดิจิทัลเป็นการผสมผสานระหว่าง เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งช่วยให้ศิลปินสามารถสร้างผลงาน ที่มีเอกลักษณ์และเข้าถึงผู้ชมได้ทั่วโลก การลงทุนในทักษะการสร้างสรรค์ศิลปะดิจิทัล จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่รักในศิลปะและเทคโนโลยี หากเราพร้อมแล้ว ลองมาดูวิธีเริ่มต้นสร้างสรรค์ศิลปะดิจิทัล
เลือกอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม
เริ่มต้นด้วยแท็บเล็ตวาดรูป เมาส์ปากกา วาดรูป เช่น iPad Notebook พร้อมโปรแกรมอย่าง PaintTool SAI, Procreate หรือ Photoshop
ศึกษาพื้นฐานการออกแบบและการวาดภาพ
ฝึกฝนทักษะการใช้เครื่องมือในซอฟต์แวร์ และศึกษาพื้นฐานการจัดองค์ประกอบศิลปะ
ฝึกฝนและทดลองสไตล์ต่างๆ
ลองสร้างสรรค์ผลงานในหลากหลายสไตล์ เช่น งาน 2D, งาน 3D หรือภาพประกอบ
เผยแพร่ผลงานผ่านช่องทางออนไลน์
แบ่งปันผลงานในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Instagram, ArtStation และตลาดขาย NFT
อนาคตของดิจิทัลอาร์ต
ในยุคปัจจุบัน ดิจิทัลอาร์ตมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีความหลากหลายมากขึ้น เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เมาส์ปากกา วาดรูป อัจฉริยะ (AI) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ ความเป็นจริงเสมือน (VR) ได้เข้ามามีบทบาทในการสร้างสรรค์งานศิลปะ AI สามารถช่วยศิลปินในการสร้างภาพ และรูปแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดประกอบ ภาพกราฟิก วาดรูปเหมือน (Portrait Drawing) ในขณะที่ VR ทำให้ผู้ชมสามารถสัมผัสประสบการณ์ศิลปะ ในมิติที่แตกต่าง อนาคตของดิจิทัลอาร์ต ยังคงมีความน่าตื่นเต้น และมีโอกาสในการพัฒนาอีกมาก เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การสร้างสรรค์งานศิลปะด้วย AI ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และการใช้ VR และ AR ในการสร้างประสบการณ์ศิลปะที่มีความสมจริงยังคงเป็นแนวโน้มที่น่าจับตามอง
Cr.Sunnysideup studio,bitkubnft,UTCC,FAA CHULA,Student CAS Blog,
