ปลูกต้นไม้ ขวดแก้ว สไตล์นิมิมอล
“สวนขวดแก้ว” เป็นการสร้าง ย่อส่วน หรือจำลองธรรมชาติ ระบบนิเวศน์ให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด สามารถพึ่งพากันเองได้ภายในระบบ ปัจจุบันเป็นที่นิยมในหมู่ของคนวัยทำงาน หนุ่มสาวที่ต้องใช้ชีวิตในเมือง อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม หรือหอพัก ซึ่งมีพื้นที่จำกัดทำให้ห่าง...
คนไม่มีพื้นที่ก็ปลูกสร้างสวนหย่อมในบ้านได้! เหล่านี้คือไอเดียที่นำมาสู่การทำได้จริง ปลูกต้นไม้แบบใหม่ ในขวดแก้วสไตล์นิมิมอล ตอบโจทย์คนเมืองสามารถใกล้ชิดธรรมชาติได้ง่าย ๆ ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ต้องพึงแสงอาทิตย์ (แสงจากหลอด LED ทดแทนแดดจริง) ทุกคนสามารถปลูกพืชเพาะเนื้อเยื่อนี้ให้เติบโตสวยงามได้โดยที่ไม่ต้องรดน้ำเลย พืชจะเจริญเติบโตได้เองจากสารอาหารในเจลใส และยังหมดปัญหาที่ทำงาน หรือคอนโดไม่มีแสงสว่างเพราะสามารถใช้แสงไฟทดแทนแสงแดด และปลูกในห้องแอร์อากาศเย็นได้อีกด้วย
ปลูกต้นไม้อย่างไร ไม่ต้องรดน้ำ
การปลูกต้นไม้ในขวดแก้ว ที่มีเจลใสเป็นแหล่งธาตุอาหารให้พืช เริ่มเป็นที่รู้จักกันในปัจจุบัน เทคโนลีวิทยาศาสตร์นี้เรียกว่า “การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช” (Plant tissue culture) ซึ่งเมื่อ 8 ปีก่อนยังไม่แพร่หลายนักรู้จักกันในวงแคบของการศึกษาวิจัย และการผลิตกล้วยไม้จำนวนมากเพื่อส่งออกซึ่งใช้เทคโนโลยีนี้มานานกว่า 20 ปี เมื่อวงการไม้ด่างเป็นกระแสนิยมขึ้นมา และเข้าถึงผู้คนทุกเพศทุกวัย จึงทำให้คนไทยเข้าใจหลักการของพืชเพาะเนื้อเยื่อมากขึ้น
ร้าน Parsimony Plant Biotech
ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว การรวมตัวกันเพื่อเริ่มโมเดลธุรกิจเกษตรเล็ก ๆ ของ 3 พาร์ทเนอร์ ซึ่งประกอบด้วย รณยศ พลเสน สายสุพรรณ พลเสน และ จุฬาลักษณ์ น้อยแสง นิสิตปริญญาโทที่ทำงานวิจัยด้าน Biotech การปรับปรุงพันธุ์พืช ก่อนจะต่อยอดเทคนิคการผลิตพืชแบบ Tissue culture ซึ่งเป็นแนวทางตามความถนัดเดิม มาสู่ธุรกิจไม้ประดับสวยงามน้องใหม่ในวงการ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ไม้ประดับสวยงามของคนเมือง สามารถเลี้ยงดูเล่น ๆ แบบไม่ต้องมีการรดน้ำ เป็นการจำลองธรรมชาติให้มาอยู่ใกล้ชิดกับคน ตามใจที่ต้องการได้
สวนธรรมชาติ ใน ขวดแก้ว
การปลูกในเจลใสนี้เราสามารถหยิบดูได้ทุกมุม พืชมีการเติบโตทั้งส่วนของลำต้น ดอก ใบ และราก อย่างรากพืชนั้นมีหลายสีเช่น สีแดง ขาว ดำ เขียว และน้ำตาล ตามสายพันธุ์พืช บางคนไม่เคยเห็นรากมาก่อนเลย เพราะแต่ก่อน ต้นไม้ปลูกในดินในกระถางเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนุก และเสริมสร้างทักษะการสังเกตเรียนรู้ให้เด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี ที่ร้านพาร์สิโมนี่ มีสายพันธุ์พืชในขวดเจลกว่า 30 ชนิด ให้เลือกสะสม แต่ละชนิดมีรายละเอียดสวยงาม และหาดูได้ยากอย่างเช่น กลุ่มพืชกินแมลง พรรณดอกไม้ และไม้ด่างในกระแส ฯลฯ
การดูแล ต้นไม้ในขวดเจล
1. น้ำและปุ๋ย
เนื่องจากการเลี้ยงต้นไม้ในขวดเป็นระบบปิดจึงสร้างสมดุลระหว่างการแลกเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์และออกซิเจนในระบบการหายใจของต้นไม้ได้เอง ร้านบรรจุสารอาหารที่จำเป็นสำหรับต้นไม้ไว้ในขวดเรียบร้อยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเปิดฝาขวดให้ต้นไม้ได้รับออกซิเจนหรือเติมอาหารอีก
2. แสง 4000-5000 Lux
ให้แสงไฟ LED สีขาว วันละประมาณ 8-10 ชั่วโมง โดยวัดค่าความเข้มแสงด้วยแอพพลิเคชั่น Lux Light Meter วางโทรศัพท์ขนานกับใบไม้ หันด้านจอขึ้นให้แสงไฟส่องลงมาที่กล้องหน้า (ควรเชคให้แน่ใจว่าปรับเป็นกล้องหน้าเพื่อวัดแสงแล้ว) วัดที่ระดับใบไม้ให้ได้ค่าแสงที่ 4000-5000 Lux หากใช้แสงธรรมชาติควรระวัง เรื่องความร้อนสะสม และไม่ควรให้โดนแสงแดดโดยตรงเพราะจะทำให้ต้นไม้เสียหายและร้อนอบในขวดได้
3. ห้ามเปิดฝาขวด!!! มิฉะนั้นจะทำให้เกิดเชื้อราบนอาหารเจลได้
“สวนขวดแก้ว” ย่อส่วน สวนธรรมชาติ
Terrarium หรือในชื่อเรียกที่คุ้นเคยกันคือ “สวนขวด” เป็นการสร้าง ย่อส่วน หรือจำลองธรรมชาติ ระบบนิเวศน์ให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด สามารถพึ่งพากันเองได้ภายในระบบ ปัจจุบันเป็นที่นิยมในหมู่ของคนวัยทำงาน หนุ่มสาวที่ต้องใช้ชีวิตในเมือง อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม หรือหอพัก ซึ่งมีพื้นที่จำกัดทำให้ห่างไกลธรรมชาติ การได้เห็นสีเขียวของธรรมชาติจาก “สวนขวด” แม้จะเป็นเพียงการจำลอง ได้เห็นการงอกงามและเติบโตของพันธุ์ไม้ต่าง ๆ Terrarium แบ่งออกได้เป็น 2 แบบใหญ่ ๆ คือ
1. แบบเปิด เป็นแบบใช้ขวดหรือภาชนะที่ไม่ต้องมีฝาปิด และต้องการการรดน้ำได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้ความชื้นไหลเวียนออกไปได้ง่าย 2. แบบปิด เป็นแบบขวดที่มีฝาปิดสนิท ต้นไม้และพืชสามารถที่จะนำความชื้นกลับมาหมุนเวียนใช้ได้ภายในขวดหรือภาชนะบรรจุ
สำหรับ “สวนขวด” หรือส่วนย่อส่วนมินิมอลของร้านพาร์สิโมนี่ เหมาะกับการนำไปเลี้ยงดูเล่น ๆ ประดับโต๊ะทำงานหรือภายในบ้าน จะมี 2 แบบคือ แบบสวนมอสที่แต่งสวนด้วยไม้ใบเฟินเล็ก ๆ ที่เลี้ยงในร่ม ใช้แสงไม่มากได้ดี กับแบบสวนมอสที่แต่งด้วยพืชกินแมลง ซึ่งแบบหลังนี้จะค่อนข้างได้รับความสนใจและเป็นซิกเนเจอร์ของที่ร้านด้วย
การดูแลต้นไม้ใน “สวนขวดแก้ว”
1.น้ำและปุ๋ย
ประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง การให้น้ำโดยใช้วิธีการสเปรย์หรือใช้หลอดหยดให้น้ำ ที่สำคัญต้องระวังไม่มีเกิดน้ำขังอยู่ในภายขวดอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรากเน่า วิธีการดูว่าควรให้น้ำมาก/หรือน้อยแค่ไหน โดยเปิดฝาขวดออกแล้วใช้มือแตะไปที่มอส ถ้าไม่มีความชื้นติดมือมาเลยแสดงว่าควรให้น้ำเติมความชุ่มชื้นได้แล้ว หยดหรือสเปรย์น้ำให้ทั่วไปทั้งขวด
ด้านล่างจะมีสแฟกนั่มมอสที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้อีกทางหนึ่งด้วย การใส่ปุ๋ยอาจจะให้ด้วยสัก 2-3 เม็ด/ครั้ง ดูตามขนาดขวดหรือจำนวนของต้นไม้ที่ปลูกอยู่ด้านใน ให้ปุ๋ยละลายช้าหรือออสโมโค้ด
2. ความเข้มแสงที่เหมาะสม
ควรวางให้ต้นไม้ได้รับแสงสว่างวันละ 8-10 ชั่วโมงต่อเนื่อง เพื่อให้ใบมีสีเขียว และเจริญเติบโตเเข็งแรง หากต้นไม้ได้แสงไม่เพียงพอจะมีอาการใบยืดยาวเรียว สีเขียวค่อยๆ ซีดลงจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล หรือกรณีแสงเข้มแรงเกินไปอาจทำให้ใบไหม้ฉับพลัน สังเกตได้จากสีน้ำตาลช้ำบนใบ เราสามารถวัดความเข้มแสงที่เหมาะสมได้ทั้งแสงแดด หรือแสงไฟ LED ที่ให้กับต้นไม้ได้ด้วยแอพพลิเคชั่นนี้ Lux light meter อ่านค่าความเข้มแสงที่ระดับใบไม้ หงายโทรศัพท์ขึ้น (ปรับให้เป็นกล้องหน้าเพื่อวัดค่าแสง) ดูว่าได้ค่าที่ 4,000-5,000 Lux สำหรับต้นไม้ในขวดอาหารเจล และ 9,000-10,000 Lux สำหรับ Terrarium สวนขวด แสดงว่าต้นไม้ได้รับแสงเพียงพอ
จำหน่ายที่ เซ็นทรัลเวสต์เกต & ช้อปปิ้งออนไลน์
ปัจจุบันร้าน Parsimony Plant Biotech มีหน้าร้านจำหน่ายสินค้าอยู่ในห้างฯ เซ็นทรัลพลาซ่าเวสต์เกต(บางใหญ่) ชั้น 3 บริเวณด้านหน้าร้าน sizzler และมีบริการร้านค้าช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านทางพันธมิตร Shopee และ Lazada อีกด้วย จากกำลังการผลิตไม้ขวด(เจล) เฉลี่ย 200-300 ขวด/เดือน การผลิตสวนขวดจะเน้นให้มีครบทุกแบบของร้าน จัดแสดงไว้ที่หน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อไปดูแลต่อได้ตามความชอบ หรือสามารถสั่งจัดสวนตามแบบของลูกค้าที่ต้องการให้จัดให้ก็ได้เช่นกัน
“โควิด19” ยิ่งขายดี!
ในช่วง “โควิด” ที่ผ่านมายังถือเป็น “โอกาส” อย่างก้าวกระโดดมากๆ สำหรับร้าน เพราะไม่เพียงสร้างยอดขายดีกว่าหลักแสนบาทต่อเดือนให้แล้ว ยังทำให้ร้านสามารถขยายฐานลูกค้าในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
Cr.ผู้จัดการออนไลน์,Parsimony Plant Biotech,เครื่องมือวัดแสง,เซ็นทรัลพลาซ่าเวสต์เกต